เฮอร์แปงไจนา เป็นอีกหนึ่งโรคระบาดในเด็กที่ไม่ค่อยคุ้นหู แต่เป็นโรคที่พบบ่อยมากในเด็ก อาจเป็นโรคที่ไม่รุนแรงเท่าไหร่นัก ทั้งนี้หากไม่ได้รับการป้องกันและการรักษาอย่างถูกวิธี ตามมาด้วยภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่เป็นอันตราย เพื่อสุขภาพที่ดีของเด็ก ๆ เราไปทำความรู้จักกับโรคนี้ เพื่อหาแนวทางในการรักษาและป้องกันการเกิดโรค
ที่มาของข้อมูล : nakornthon.com,paolohospital.com,bumrungrad.com
โรคเฮอร์แปงไจนา คืออะไร
โรคติดเชื้อชนิดหนึ่งพบได้บ่อยในเด็กเล็กอายุน้อยกว่า 10 ปี โดยเกิดจากเชื้อไวรัสกลุ่มเอนเทอโรไวรัส (Enterovirus) แสดงอาการคล้าย มือ เท้า ปาก ไข้สูงเฉียบพลัน ทำให้ทานได้น้อย แผลเหมือนร้อนใน หรือ ตุ่มเล็กๆ บริเวณเพดานปาก ลิ้นไก่ ด้านหลังของคอหอย ทำให้มีอาการเจ็บคอ กลืนลำบาก ทานอาหารได้น้อย จนอาจมีอาการขาดน้ำ บางรายอาจมีอาการแทรกซ้อนทำให้สมองอักเสบ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ จนถึงขั้นเสียชีวิตได้
โรคมือ เท้า ปาก VS เฮอร์แปงไจนา แตกต่างกันอย่างไร?
“โรคมือ เท้า ปาก” และ “เฮอร์แปงไจนา” เกิดจากการติดเชื้อไวรัสกลุ่มเดียวกัน แต่อาการแตกต่างกัน คือ โรค มือ เท้า ปาก จะมีไข้ มีผื่น ตุ่มน้ำใสหรือเม็ดแดงๆ ในปาก ฝ่ามือ ฝ่าเท้า บางรายอาจมีอาการ อาเจียน ถ่ายเหลวรุนแรง ร่างกายขาดน้ำ ปอดบวมน้ำ หอบเหนื่อย ซึม ชัก เกร็ง ช็อกเสียชีวิต
ส่วน “โรคเฮอร์แปงไจนา” จะไม่พบผื่นบริเวณฝ่ามือและฝ่าเท้า จะสังเกตอาการของโรคนี้ได้ค่อนข้างลำบากในช่วงแรก ต่อเมื่อเริ่มมีผื่นขึ้น คออักเสบ จึงจะสามารถสังเกตอาการได้ บางรายอาจพบเพียงผื่นและแผลตื้น ๆ ในช่องปาก เท่านั้น
โรคเฮอร์แปงไจนา ติดต่อได้อย่างไร ? และมีอาการอะไรบ้าง
มักระบาดในอากาศชื้นหรือฤดูฝน ในเดือน พ.ค. - ส.ค. ที่พบบ่อยมากที่สุด ติดต่อเหมือนโรคมือ เท้า ปาก เกิดจากการสัมผัสน้ำมูก น้ำลาย หรืออุจจาระของผู้ป่วย สัมผัสเข้าทางตา จมูก หรือปาก เช่น เอามือเข้าปาก อมของเล่นที่มีเชื้อจึงทำให้เกิดการติดเชื้อได้ จะมีอาการหลังได้รับเชื้อประมาณ 3– 14 วัน ซึ่งผู้ป่วยที่ติดเชื้อจะแพร่เชื้อได้ตั้งแต่วันแรกที่ติดเชื้อไปจนกว่าจะหายจากโรค คือ ประมาณ 1 – 2 สัปดาห์นับจากติดเชื้อ
อาการเฮอร์แปงไจนา
- มีไข้เฉียบพลันหรือมีไข้สูงกว่า 38.5-40 องศาเซลเซียส
- เจ็บคอ เจ็บปวดขณะกลืนอาหาร
- มีแผลในปาก แผลเล็กๆ หลายแผลบริเวณเพดานอ่อน ต่อมทอนซิล ผนังคอด้านหลัง
- ปวดหัว ปวดตามตัว
- ต่อมน้ำเหลืองในคอบวมโต
- อาจมีอาเจียนร่วมด้วย
การรักษา
ปัจจุบันยังไม่มียาต้านไวรัสที่จะรักษาโรคเฮอแปงไจน่า สามารถหายเองได้ภายใน 7-10 วัน มีวิธีการรักษาตามอาการ ดังนี้
- หากมีไข้ เช็ดตัวจนกว่าไข้จะลดลง ให้ยาลดไข้ พาราเซตามอลหรือให้ไอบูโปรเฟน เพื่อลดความเจ็บปวดจากผื่นแผลในปาก
- ให้เด็ก จิบ ดื่มน้ำเย็นบ่อยๆ หรือดื่มนมเย็นที่มีรสไม่หวานมาก
- ให้อาหารจืด อ่อน ย่อยง่าย
- หากไข้ขึ้นสูงและเด็กไม่ยอมทานอะไรเลย ควรพาไปพบแพทย์
- แพทย์อาจใช้ยาที่มีส่วนผสมของยาชา เพื่อลดอาการคออักเสบ
การป้องกันโรคเฮอร์แปงไจนา
– ล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนรับประทานอาหารและหลังขับถ่าย ตัดเล็บให้สั้น
– ใช้ช้อนกลางเวลารับประทานอาหาร
– ทำความสะอาดของเล่น ของใช้ ให้สะอาดอยู่เสมอ
– ปิดปากและจมูกทุกครั้งเมื่อไอจาม
– สอนให้เด็กระวังการสัมผัสน้ำลาย น้ำมูก สิ่งของต่าง ๆ ของเด็กที่ป่วย
– หลีกเลี่ยงการพาเด็กไปอยู่ในที่แออัด หรือสถานที่ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ
– เมื่อเด็กมีอาการป่วยควรให้หยุดเรียนจนกว่าจะหายดี
วางแผนดูแลสุขภาพได้ตั้งแต่วัยเริ่มต้นของชีวิต กับประกันเด็ก Max Kids Protect+
อาการทั่วไปของโรคนั้นไม่รุนแรง แต่ไม่ควรวางใจ อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ การเรียน และการใช้ชีวิตในสังคมของลูกในอนาคตได้ รักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล ควรล้างมือให้สะอาดก่อนรับประทานอาหาร และหลังเข้าห้องน้ำทุกครั้ง วางแผนสุขภาพให้ลูกตั้งแต่วัยเริ่มต้น ด้วยการมีประกันสุขภาพ Max Kids Protect + ให้ความคุ้มครองทั้งชีวิตและสุขภาพ เริ่มต้นเพียง 28 บาทต่อวัน คุ้มครองชีวิตเริ่มต้น 300,000 บาท รับประกันเด็กอายุ 1 เดือน 1 วัน
สนใจดูรายละเอียด Max Kids Protect+ คลิก : https://www.kwilife.com/max-kids-protect-plus
สอบถามข้อมูลประกันเพิ่มเติมโทร : 02-033-9000 (จันทร์ - ศุกร์ เวลา 08.30 – 19.00 น.)
“ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียด ความคุ้มครองและเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำ ประกันภัยทุกครั้ง”
